ไฟซีน่อนคืออะไร
บทความเนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบายโดยละเอียด
ปัจุบันเมื่อมีการกล่าวถืงชื่อ ไฟซีน่อน (Xenon) หรือ H.I.D : Hyper intensity discharge น้อยคนนักที่อาจจะยังไม่รู้จัก และมีอีกหลายหลายสื่อในวงการรถยนต์ในประเทศไทยก็ได้เคยนำเสนอเกียวกับไฟซีน่อน (Xenon HID) แค่ก็ยังมีอีกหลายคนยังไม่เข้าใจหลักการทำงาน ของหลอดไฟซีน่อน (Xenon HID)
จนทำให้งงกันอยู่ ซึ่งบางคนอาจเข้าใจผิดว่า ไฟซีน่อน (Xenon HID) สว่างมากเกินไปจนไปแยงตารถคันอื่นแต่ในปัจุบันได้มีการพัฒนาระบบไฟซีน่อน (Xenon HID) ให้มีแผ่นรองกันแสง (Filter) เพื่อไม่ให้แสงซีน่อน (Xenon) ตกกระทบบริเวณ Reflex ภายในโคมด้านล่าง ซึ่งมีผลทำให้แสงซีนอล(Xenon) สะท้อนออกไปอย่างไม่มีระเบียบไม่ฟุ้งกระจายและจะเห็นได้ชัดเจนในหลอด ไฟซีน่อน(Xenon HID) ในชนิดขั้ว H4 Lo/Hi จึงทำให้หมดปัญหาในเรื่องแสงไฟซีนอน( Xenon) แยงตาอีกต่อไป ซึ่งในอดีตไฟซีน่อน (Xenon HID) เป็นเพียงของเล่นราคาแพงสำหรับคนมีเงินที่ต้องการเน้นเรื่องความปลอดภัยในการขับขีรถยนต์ในยามค่ำคืน หรือเป็นเพียงชุดแต่งสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามโดดเด่นจนเป็นเห็ตต้องจ่ายเงินอีกหลายหมื่นบาทในการติดตั้ง ชุดไฟซีน่อน (Xenon HID)
สำหรับไฟซีน่อน (Xenon HID)เริ่มถูกน้ำมาใช้เป็นอุปกรณ์ติดในรถอย่างจริงจังเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งเริ่มต้นในรถราคาหรูหราราคาแพงคันละหลายล้านบาทแล้วก็เริ่มมีบริษัทรถยนต์อื่นๆเริ่มนำระบบไฟซีน่อน (Xenon HID) มาติดตั้งในรถราคาไม่ถึงล้านบาทแม้กระทั้งรถปิคอัพบางยี่ห้อยังมีใช้แล้ว แต่ก้ยังไม่แพร่หลายซักเท่าไรถ้าไม่นับรถปิคอัพแล้วก็จะมีแต่รถคันละล้านกว่าบาทขึ้นไปที่มีไฟซีน่อน (Xenon HID)
จึงทำให้ระบบไฟซีน่อน(Xenon HID) เป็นเสมือนระบบไฟชนิดพิเศษที่มีในรถราคาแพงเท่านั้นและยากที่จะหาซื่อได้ง่ายๆ แต่ก่อนถ้าจะติดตั้งเพิ่มก็ต้องเสียเงินชุดละหลายหมื่นบาทซึ่งหลายคนอาจจะไฟซีนอล (Xenon HID)เพียงผิวเผิน รู้แต่ว่ามีใช้ในรถราคาแพง สว่างดี สวนการทำงานจริงเป็นอย่างไรหรือติดตั้งเพิ่มได้ไหม จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว
คนในยุคนี้ ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับหลอดไฟฮาโลเจน หรือหลอดแบบมี ไส้ภายในที่บรรจุก๊าซฮาโลเจน ซึ่งแตกต่างกันกันกับหลอดไฟซีน่อน (Xenon HID) ในเรื่องรายละเอียดของหลักการทำงานเพื่อให้เกิดแสงสว่างซึ่งประกอบส่วนประกอบภายในหลอดฮาโลเจน (Halogen) จะมีรหัสเรียก อาทิเช่น H1,H3,H4,H7,HB3,HB4,H11 วึ่งมีราคาตั้งแต่หลอดละ50บาทขึ้นไปจนถึงหลอดละหลายพัน เมื่อเปรียบเทียบการทำงานแบบง่ายๆของหลอดฮาโลเจน ก็คืเป็นหลอดแบบมีใส้ จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไปแล้วทำความร้อนให้ขอลวดเปร่งแสง ผ่านก๊าซที่มีชื่อเรียกว่า ฮาโลเจนที่บรรจุอยู่ในหลอดชนิดนี้ ถ้าหลอดแต่จนก๊าซรั่วหรือใส้ขดลวดขาดก็จะเสียทั้นที ซื่อจะใช้ไฟฟ้า 12V/4.8A(55W) จากระบบไฟฟ้าปกติของรถ เพื่อให้เกิดแสงสว่าง โดยจะสว่างขึ้นอย่าฉับไวแบบเดียวกับการที่เราปิดไฟสูง ส่วนไฟซีน่อน (Xenon HID) ภายในจะบรรจุก๊าซชื่อว่า ซีน่อน (Xenon ) ที่ทำปฎิกิริยากับกระแสไฟไฟฟ้าทำให้เกิดแสงสว่างซึ่งจะแตกต่างกับหลอดแบบฮาโลเจน แต่จะทำงานคล้ายกับหลอดไฟนีออน ที่ใช้ในบ้าน หรือหลอดตะเกียบและจะต้องมีตัวแปรงกระแสไฟฟ้าที่เรียกว่า บัลลาสต์ (Ballast) ซึ่งจะเป็นกล่องที่คั้นระหว่าสายไฟปกติ ก่อนต่อเข้ากับตัวหลอดไฟซีน่อน (Xenon HID) แสงที่จะได้ออกมานวนๆใก้เคียงกับแสงอาทิตย์และสามารถเลีอกเฉดสีหรือค่าอุณหภูมิสี (Kelvin) ได้ตามความชอบ ซึ่งการปิดให้หลอดไฟซีน่อน (Xenon HID) ให้สว่างตัว บัลลาสต์(Ballast) จะส้างกระแส่ไฟฟ้าระดับ 20,000กว่าโวลต์ ส่งเข้าไปยังตัวหลอดไฟซีน่อน (Xenon HID) เพื่อสตาร์ทตัวเป็นครั้งแรก และอีกใน1-2วินาทีก็จะลดกระแสไฟลงเหลือ 12V/3.2a (35W) ต่อเนื่องตลอดการทำงาน
สรุปง่ายๆๆว่าระบบไฟซีน่อน (Xenon HID) จะมีกระแสไฟฟ้าเป็นหมื่นโวลต์ถูกสร้างขึ้นมาด้วย กล่องบัลลาสต์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆๆ เพื่อจุกหลอดให้สว่างขึ้นต่อจากนั้น ประมาณ 1-2 วินาที ก็จะลดกระแสไฟฟ้าลงมาเหลื่อ 12V/3.2A (35W) ความสว่างในในตัวหลอดไฟซีน่อน (Xenon HID) ก็สว่างเต็มที่
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ XENON
-Xenon มีค่า K ตั้งแต่ 3000 – 30000 K**
-ให้ความสว่างมากกว่า เดิม 3 เท่า
-Xenon เป็น เทคโนโลยีของหลอดไม่มีใส้ ซึ่งมีการทำงานโดยเกิดการกระโดดของอิเลคตรอน
-มี อุณหภูมิ สีสูง ให้แสงที่มีสีใกล้เคียงกับ แสงอาทิตย์ ให้การมองเห็นสูง
-มี ประสิทธิภาพ สูง ประหยัดพลังงาน สิ้นเปลืองกำลังไฟ 35 W
-มีอายุการใช้ งาน 3,000 ชม. ( ประมาณ 3 เท่า ของหลอดฮาโลเจน ) ไม่ต้องบำรุงรักษา ไม่มีการขาดของไส้หลอด
-ความเสีย หายจากความร้อนมีน้อย
-ให้การขับขี่ ที่ปลอดภัย ตอบสนอง Headlamp ที่มีแสง สีขาว เพิ่มการกระจายของแสง ครอบคลุมพื้นที่กว้างไกลยิ่งขึ้น
ซึ่งเป็น การเพิ่มความปลอดภัยโดยการป้องกันอุบัติเหตุ
- ระบบไฟซีนอนที่สามารถให้ความสว่างได้มากถึง 3 เท่า เมื่อ เปรียบเทียบกับหลอด Halogenที่ใช้ในรถยนต์ปัจจุบันทั่วไป
และการ ที่ระบบไฟ HID ให้แสงสว่างที่ดีกว่านั้น ทำให้ ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้นและปลอดภัยขึ้นเช่นกัน ทั้งช่วย ลดความเครียดในการขับขี่
แม้ในสภาวะอากาศที่ไม่ดีก็ตาม ชุดระบบไฟ HID ของ XENON เป็นระบบไฟที่ประกอบ ไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัย
และใช้เทคโนโลยีที่ดีในการผลิต หลอดไฟ HID นั้นทำจากหลอดแก้วคริ สตัล ซึ่งสามารถตัดแสงอัลตราไวโอเลต (UV)
ซึ่งแสง UVนั้นสามารถทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นสั้นลง หรือ
เสื่อมเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นอายุการใช้งานของหลอดไฟซีนอนในระบบ HID นั้น สามารถใช้งานได้ถึง 3,000 ชั่วโมง
(Xenon มีค่า K ตั้งแต่ 3000 – 30000 K)
- 3000 k สีเหลือง
- 4300 k สีเหลืองอมขาว (เหมือน ไฟเดิมของรถแต่จะขาวกว่านิดหน่อย)
- 6000 k สี ขาวอมเหลือง (จะมีสีเหลืองประมาณ 10% สี ขาว 90%)
- 8000 k สีขาว
- 10000 k สีขาวติดฟ้า (สีฟ้ามีประมาณ 10%)
- 12000 k สีฟ้า 20% สี ขาว 80% จนถึง 30000 k จะเป็นสีพิเศษ มีสีม่วง ชมพู ทอง ฟ้า
ข้อมูลจาก www.proautolight.com
วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554
สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป
เมื่อคุณชี้แจงไปแล้ว เขาก็ควรจะยอมรับฟัง แต่เมื่อเขาไม่ฟัง และคุณก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดไปแล้ว ก็คงต้อง “ ปล่อยมันไป ”
ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป เพราะหากเรามัว แต่จะ “ นับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา ” เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่
( มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้สึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง)
ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้ เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ ปล่อยมันไป ”
เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว
อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด...แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ
เรามีเวลาไม่มากนักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้ ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเองเพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณด้วย
.................. ไม่มีใครทำให้คนทุกคนรักเราได้.....................
....... อาจจะมีคนชอบในตัวเรา 10 คน แต่ก็มีคนเกลียดเรา 100 คน........
............... แคร์คนที่แคร์เรา ไม่แคร์คนที่ไม่แคร์เรา..............
.............. มีมิตรแท้เพียงหนึ่ง ดีกว่ามีเพื่อนกินเป็น 100.............
ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป เพราะหากเรามัว แต่จะ “ นับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา ” เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่
( มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้สึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง)
ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้ เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ ปล่อยมันไป ”
เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว
อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด...แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ
เรามีเวลาไม่มากนักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้ ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเองเพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณด้วย
.................. ไม่มีใครทำให้คนทุกคนรักเราได้.....................
....... อาจจะมีคนชอบในตัวเรา 10 คน แต่ก็มีคนเกลียดเรา 100 คน........
............... แคร์คนที่แคร์เรา ไม่แคร์คนที่ไม่แคร์เรา..............
.............. มีมิตรแท้เพียงหนึ่ง ดีกว่ามีเพื่อนกินเป็น 100.............
วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554
การขี่รถเวลาออกทริปและสัญญาณมือ
(ขออนุญาติเจ้าของเดิมนำมาไว้เป็นวิทยาทานด้วยครับ แต่จำไม่ได้แล้วว่าไปดูมาจากเวปไหนบ้างขอลงไว้เท่าที่จำได้นะครับ)
การขี่รถเวลาออกทริปและสัญญาณมือ
การแบ่งลำดับการขี่ในกลุ่ม ควรจะต้องมี
Ride Leader ผู้นำกลุ่ม
ควรจะเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในการขับขี่เป็นอย่างดี รู้จักและจดจำเส้นทางได้อย่างแม่นยำ รู้ระยะที่ปลอดภัยของขบวนในการเข้า-ออกทางคู่ขนานต่างๆ เป็นผู้กำหนดความเร็วในการเดินทางที่เหมาะสม ผู้นำกลุ่มจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจใน ตำแหน่งที่พักระหว่างทาง ปั๊มน้ำมัน สัญญาณเตือนเส้นทางข้างหน้า รูปแบบการขี่ ระยะห่างระหว่างรถ ซึ่งจะต้องจัดลำดับของผู้ตามได้อย่างถูกต้อง โดยมือใหม่ของกลุ่มควรที่จะอยู่ท้ายขบวนให้ใกล้กับ Tail Gunner (คนคุมท้าย) ให้มากที่สุด
ก่อนเริ่มต้นเดินทางทุกครั้ง เป็นหน้าที่ของผู้นำกลุ่มที่จะต้องทำความเข้าใจเรื่องความปลอดภัย (Safety Breifing) และรายละเอียดการขี่ให้กับสมาชิกในกลุ่มทราบ
Tail Gunner คนคุมท้าย
เปรียบเสมือนตาด้านหลังของผู้นำกลุ่ม สามารถขี่ได้อย่างอิสระ ซึ่งจะเป็นคนคอยควบคุมลำดับการขี่ แจ้งเตือนเมื่อมีรถพยายามจะแซง แจ้งปัญหาอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการขี่ให้ผู้นำกลุ่มและสมาชิกคนอื่นๆทราบ อย่างการพยายามเข้าแทรกระหว่างขบวนของรถยนต์ หรือลมดูดที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อมีรถใหญ่แซงขึ้นไป เป็นผู้คอยกันรถหลังเมื่อขบวนพยายามจะเปลี่ยนเลน ในบางขณะที่ คนคุมท้าย จะต้องออกจากขบวนไป ผู้นำกลุ่มจะต้องมอบหมายให้นักขี่ที่มีประสบการณ์เข้ามาทำหน้าที่แทน
New Rider มือใหม่
จะหมายถึงสมาชิกที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์กับการขี่ออกทริปเป็นกลุ่ม ตำแหน่งที่เหมาะสมควรจะอยู่ท้ายขบวนให้มากที่สุด
การจอดเติมน้ำมัน
รถทุกคันควรจะต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังทุกครั้งที่มี การแวะปั๊มน้ำมัน ถึงแม้ว่ารถของคุณจะกินน้ำมันน้อยกว่าคนอื่นและน้ำมันยังเหลืออีกตั้งครึ่งถังก้อตาม แต่เมื่อขี่ต่อไป น้ำมันของคุณจะหมดก่อนเพื่อนคนอื่น และจะทำให้ขบวนต้องหยุดเมื่อยังไม่ถึงระยะที่กำหนด เมื่อเติมน้ำมันเรียบร้อยแล้ว ควรเลื่อนรถออกจากตำแหน่งหัวจ่ายไปรวมกับผู้ที่เติมเรียบร้อยแล้ว เพื่อรอสัญญาณออกเดินทางจากผู้นำกลุ่ม
รอเพื่อนที่ตามหลัง
หลายครั้งที่ทั้งขบวนจะต้องหยุดรอสมาชิกที่หายไป ดังนั้นสมาชิกทุกคนควรหมั่นสังเกตุเพื่อนที่ขี่ตามหลังจากกระจกหลังอยู่เสมอ หากเพื่อนเราหายไปจากขบวน พยายามแจ้งให้เพื่อนคันหน้าทราบ ชะลอหรือหยุดรอ โดยไม่ขวางทางรถคันอื่นบนถนนซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายได้ และควรจะนัดแนะกันไว้ล่วงหน้าว่า จุดที่จะแวะพักต่อไปคือที่ไหน
ในระหว่างการเดินทาง ถึงแม้ว่าจะมีรถ Service ติดไปด้วยก็ตาม แต่ทุกคนควรจะต้องมีชุด Service ชุดเล็กติดกระเป๋าหลังไปด้วย พร้อมกับโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ขอความช่วยเหลือ บางครั้งอาจจะให้วิธีการส่ง SMS ว่าจะนัดเจอกันที่ตำแหน่งไหนในกรณีที่ระหว่างขี่ไม่สามารถรับสายได้ หรือการให้เบอร์ติดต่อกลางของรถ Service หรือเพื่อนที่ไม่ได้ขี่เพื่อจะได้เป็นคนคอยประสานงาน ให้
ลำดับตำแหน่งการขี่ (Riding Formation)
จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ ขี่แบบสลับฟันปลา 2 แถว และ ขี่เรียงหนึ่ง
ผู้นำกลุ่มควรจะอยู่ชิดเส้นกลางเสมอ เพื่อที่จะมองเป็นเส้นทางข้างหน้าสำหรับการแซง และข้างหลังสำหรับรูปขบวน รวมไปถึงรถที่พยายามจะแซงได้อย่างชัดเจน
ระยะห่างของรถคันที่สอง ควรจะทิ้งระยะที่ 1 วินาที และคันที่ 3 ซึ่งอยู่หลังผู้นำกลุ่มจะทิ้งระยะที่ 2 วินาทีจากผู้นำกลุ่ม
เว้นระยะให้ถูกต้องทั้งขบวน
อย่าเว้นช่องว่างในขบวน หากเกิดช่องว่างขึ้นให้เติมขึ้นมาให้เต็ม เพื่อป้องคันรถที่อาจแทรกเข้ามา
ลักษณะการจอดในกรณีติดแดง
การขี่ขนาบข้าง
ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง หรือการขี่เข้าใกล้คันหน้ามากเกินไปซึ่งจะเป็นตำแหน่งจุดบอดของกระจกมองหลัง อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ หากมีอุปสรรคเกิดขึ้นด้านหน้าและคันหน้าพยายามจะเปลี่ยนเลน อีกทั้งทัศนวิสัยของคันหลังจะแย่ลงหากเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป
ไม่ควรขี่กลุ่มใหญ่จนเกินไป
จำนวนที่ขี่ได้สบายที่สุดคือ 4-6 คัน ซึ่งเราสามารถที่จะแบ่งกลุ่มย่อยและกำหนดให้มีผู้นำก ลุ่มย่อยดูแลกันเองเพื่อความคล่องตัว
การขี่กลุ่มใหญ่โดยกระจายไปทั่วถนน จะก่อให้เกิดความรำคาญต่อผู้ใช้ถนนคนอื่นและอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
มีสิ่งกีดขวางหรืออุปสรรคด้านซ้าย
มีสิ่งกีดขวางหรืออุปสรรคด้านขวา (ใช้เท้าชี้ก็ได้)
สัญญาณมือเลี้ยวซ้าย
สัญญาณมือเลี้ยวขวา
สัญญาณมือขี่เรียงแถวเดียว (ยกนิ้วชี้นิ้วเดียว)
สัญญาณมือขี่แถวสลับฟันปลา(ชูสองนิ้ว)
ชลอ (คว่ำมือลงต่ำแล้วโบกช้าๆ)
เร่งความเร็ว (ชิ้ขึ้นบนแล้วขยับ)
หยุด (แบมือ จะคว่ำมือลงต่ำ หรือยกมือขึ้นก็ได้)
สตาร์ทเครื่อง (ยกนิ้วชึ้แล้วหมุนวน)
กระชับขบวน
-------------------------------------
เติมน้ำมัน - ชึ้มือลงไปที่ถังน้ำมัน
หาของกิน - ชูนิ้วโป้งแล้วชี้ไปที่ปาก
สัญญาณมือต่างๆ อาจจะกำหนดเองตามความคุ้นเคยของแต่ละกลุ่ม แต่ตามมาตรฐานแล้วจะใช้กัน
ประมาณนี้ครับ
หรืออีกหนึ่งวิธีที่สะดวกและใช้ได้ผลคือ ใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกันระหว่างการขี่ โดยเอาเครื่องเหน็บที่เอว แล้วต่อสาย Hand Free ใส่หูฟังและเอาไมค์จ่อไว้ที่ปาก ใส่หมวกคลุมหน้าเพื่อกันเสียงลมระหว่างขี่ คราวนี้จะติดต่อกันยังไงก้อไม่มีพลาด หรือให้รถ Service เปิดเพลงน้าแอ๊ดให้ฟังระหว่างทางก้อยังไหว
การขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวเป็นงานอดิเรกที่ค่อนข ้างอันตรายอย่างหนึ่ง หลายครั้งที่เราได้รับฟังข่าวที่น่าเศร้าเมื่อเพื่อน นักขี่มีอันเป็นไปจากการขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่เขารัก ดังนั้น การเรียนรู้วิธีการขี่ที่ปลอดภัย จะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบั ติเหตุได้ แต่ทั้งหมดนั้นคงขึ้นอยู่กับบุญกรรม, ความไม่ประมาท, สภาพร่างกาย และประสบการณ์ในการขี่ของแต่ละคน ไม่ควรขี่เร็วเกินความสามารถของเรา หากมีใครพยายามเร่งให้ขี่เร็วโดยที่เราไม่พร้อม ให้เปิดทางให้เขาขึ้นนำไปก่อนได้เลย สุดท้ายยังไงก้อไปถึงที่เดียวกันอยู่แล้ว
จงพึงระลึกอยู่เสมอทุกครั้งที่ก้าวขึ้นอานมอเตอร์ไซค ์สุดที่รักว่า ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ขี่ จะช่วยให้เรามีสติและขับขี่โดยไม่ประมาทได้ครับ
www.d-riderclub.co.cc
www.superfour-club.com
การขี่รถเวลาออกทริปและสัญญาณมือ
การแบ่งลำดับการขี่ในกลุ่ม ควรจะต้องมี
Ride Leader ผู้นำกลุ่ม
ควรจะเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในการขับขี่เป็นอย่างดี รู้จักและจดจำเส้นทางได้อย่างแม่นยำ รู้ระยะที่ปลอดภัยของขบวนในการเข้า-ออกทางคู่ขนานต่างๆ เป็นผู้กำหนดความเร็วในการเดินทางที่เหมาะสม ผู้นำกลุ่มจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจใน ตำแหน่งที่พักระหว่างทาง ปั๊มน้ำมัน สัญญาณเตือนเส้นทางข้างหน้า รูปแบบการขี่ ระยะห่างระหว่างรถ ซึ่งจะต้องจัดลำดับของผู้ตามได้อย่างถูกต้อง โดยมือใหม่ของกลุ่มควรที่จะอยู่ท้ายขบวนให้ใกล้กับ Tail Gunner (คนคุมท้าย) ให้มากที่สุด
ก่อนเริ่มต้นเดินทางทุกครั้ง เป็นหน้าที่ของผู้นำกลุ่มที่จะต้องทำความเข้าใจเรื่องความปลอดภัย (Safety Breifing) และรายละเอียดการขี่ให้กับสมาชิกในกลุ่มทราบ
Tail Gunner คนคุมท้าย
เปรียบเสมือนตาด้านหลังของผู้นำกลุ่ม สามารถขี่ได้อย่างอิสระ ซึ่งจะเป็นคนคอยควบคุมลำดับการขี่ แจ้งเตือนเมื่อมีรถพยายามจะแซง แจ้งปัญหาอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการขี่ให้ผู้นำกลุ่มและสมาชิกคนอื่นๆทราบ อย่างการพยายามเข้าแทรกระหว่างขบวนของรถยนต์ หรือลมดูดที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อมีรถใหญ่แซงขึ้นไป เป็นผู้คอยกันรถหลังเมื่อขบวนพยายามจะเปลี่ยนเลน ในบางขณะที่ คนคุมท้าย จะต้องออกจากขบวนไป ผู้นำกลุ่มจะต้องมอบหมายให้นักขี่ที่มีประสบการณ์เข้ามาทำหน้าที่แทน
New Rider มือใหม่
จะหมายถึงสมาชิกที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์กับการขี่ออกทริปเป็นกลุ่ม ตำแหน่งที่เหมาะสมควรจะอยู่ท้ายขบวนให้มากที่สุด
การจอดเติมน้ำมัน
รถทุกคันควรจะต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังทุกครั้งที่มี การแวะปั๊มน้ำมัน ถึงแม้ว่ารถของคุณจะกินน้ำมันน้อยกว่าคนอื่นและน้ำมันยังเหลืออีกตั้งครึ่งถังก้อตาม แต่เมื่อขี่ต่อไป น้ำมันของคุณจะหมดก่อนเพื่อนคนอื่น และจะทำให้ขบวนต้องหยุดเมื่อยังไม่ถึงระยะที่กำหนด เมื่อเติมน้ำมันเรียบร้อยแล้ว ควรเลื่อนรถออกจากตำแหน่งหัวจ่ายไปรวมกับผู้ที่เติมเรียบร้อยแล้ว เพื่อรอสัญญาณออกเดินทางจากผู้นำกลุ่ม
รอเพื่อนที่ตามหลัง
หลายครั้งที่ทั้งขบวนจะต้องหยุดรอสมาชิกที่หายไป ดังนั้นสมาชิกทุกคนควรหมั่นสังเกตุเพื่อนที่ขี่ตามหลังจากกระจกหลังอยู่เสมอ หากเพื่อนเราหายไปจากขบวน พยายามแจ้งให้เพื่อนคันหน้าทราบ ชะลอหรือหยุดรอ โดยไม่ขวางทางรถคันอื่นบนถนนซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายได้ และควรจะนัดแนะกันไว้ล่วงหน้าว่า จุดที่จะแวะพักต่อไปคือที่ไหน
ในระหว่างการเดินทาง ถึงแม้ว่าจะมีรถ Service ติดไปด้วยก็ตาม แต่ทุกคนควรจะต้องมีชุด Service ชุดเล็กติดกระเป๋าหลังไปด้วย พร้อมกับโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ขอความช่วยเหลือ บางครั้งอาจจะให้วิธีการส่ง SMS ว่าจะนัดเจอกันที่ตำแหน่งไหนในกรณีที่ระหว่างขี่ไม่สามารถรับสายได้ หรือการให้เบอร์ติดต่อกลางของรถ Service หรือเพื่อนที่ไม่ได้ขี่เพื่อจะได้เป็นคนคอยประสานงาน ให้
ลำดับตำแหน่งการขี่ (Riding Formation)
จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ ขี่แบบสลับฟันปลา 2 แถว และ ขี่เรียงหนึ่ง
ผู้นำกลุ่มควรจะอยู่ชิดเส้นกลางเสมอ เพื่อที่จะมองเป็นเส้นทางข้างหน้าสำหรับการแซง และข้างหลังสำหรับรูปขบวน รวมไปถึงรถที่พยายามจะแซงได้อย่างชัดเจน
ระยะห่างของรถคันที่สอง ควรจะทิ้งระยะที่ 1 วินาที และคันที่ 3 ซึ่งอยู่หลังผู้นำกลุ่มจะทิ้งระยะที่ 2 วินาทีจากผู้นำกลุ่ม
เว้นระยะให้ถูกต้องทั้งขบวน
อย่าเว้นช่องว่างในขบวน หากเกิดช่องว่างขึ้นให้เติมขึ้นมาให้เต็ม เพื่อป้องคันรถที่อาจแทรกเข้ามา
ลักษณะการจอดในกรณีติดแดง
การขี่ขนาบข้าง
ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง หรือการขี่เข้าใกล้คันหน้ามากเกินไปซึ่งจะเป็นตำแหน่งจุดบอดของกระจกมองหลัง อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ หากมีอุปสรรคเกิดขึ้นด้านหน้าและคันหน้าพยายามจะเปลี่ยนเลน อีกทั้งทัศนวิสัยของคันหลังจะแย่ลงหากเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป
ไม่ควรขี่กลุ่มใหญ่จนเกินไป
จำนวนที่ขี่ได้สบายที่สุดคือ 4-6 คัน ซึ่งเราสามารถที่จะแบ่งกลุ่มย่อยและกำหนดให้มีผู้นำก ลุ่มย่อยดูแลกันเองเพื่อความคล่องตัว
การขี่กลุ่มใหญ่โดยกระจายไปทั่วถนน จะก่อให้เกิดความรำคาญต่อผู้ใช้ถนนคนอื่นและอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
มีสิ่งกีดขวางหรืออุปสรรคด้านซ้าย
มีสิ่งกีดขวางหรืออุปสรรคด้านขวา (ใช้เท้าชี้ก็ได้)
สัญญาณมือเลี้ยวซ้าย
สัญญาณมือเลี้ยวขวา
สัญญาณมือขี่เรียงแถวเดียว (ยกนิ้วชี้นิ้วเดียว)
สัญญาณมือขี่แถวสลับฟันปลา(ชูสองนิ้ว)
ชลอ (คว่ำมือลงต่ำแล้วโบกช้าๆ)
เร่งความเร็ว (ชิ้ขึ้นบนแล้วขยับ)
หยุด (แบมือ จะคว่ำมือลงต่ำ หรือยกมือขึ้นก็ได้)
สตาร์ทเครื่อง (ยกนิ้วชึ้แล้วหมุนวน)
กระชับขบวน
-------------------------------------
เติมน้ำมัน - ชึ้มือลงไปที่ถังน้ำมัน
หาของกิน - ชูนิ้วโป้งแล้วชี้ไปที่ปาก
สัญญาณมือต่างๆ อาจจะกำหนดเองตามความคุ้นเคยของแต่ละกลุ่ม แต่ตามมาตรฐานแล้วจะใช้กัน
ประมาณนี้ครับ
หรืออีกหนึ่งวิธีที่สะดวกและใช้ได้ผลคือ ใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกันระหว่างการขี่ โดยเอาเครื่องเหน็บที่เอว แล้วต่อสาย Hand Free ใส่หูฟังและเอาไมค์จ่อไว้ที่ปาก ใส่หมวกคลุมหน้าเพื่อกันเสียงลมระหว่างขี่ คราวนี้จะติดต่อกันยังไงก้อไม่มีพลาด หรือให้รถ Service เปิดเพลงน้าแอ๊ดให้ฟังระหว่างทางก้อยังไหว
การขี่รถมอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวเป็นงานอดิเรกที่ค่อนข ้างอันตรายอย่างหนึ่ง หลายครั้งที่เราได้รับฟังข่าวที่น่าเศร้าเมื่อเพื่อน นักขี่มีอันเป็นไปจากการขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่เขารัก ดังนั้น การเรียนรู้วิธีการขี่ที่ปลอดภัย จะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบั ติเหตุได้ แต่ทั้งหมดนั้นคงขึ้นอยู่กับบุญกรรม, ความไม่ประมาท, สภาพร่างกาย และประสบการณ์ในการขี่ของแต่ละคน ไม่ควรขี่เร็วเกินความสามารถของเรา หากมีใครพยายามเร่งให้ขี่เร็วโดยที่เราไม่พร้อม ให้เปิดทางให้เขาขึ้นนำไปก่อนได้เลย สุดท้ายยังไงก้อไปถึงที่เดียวกันอยู่แล้ว
จงพึงระลึกอยู่เสมอทุกครั้งที่ก้าวขึ้นอานมอเตอร์ไซค ์สุดที่รักว่า ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ขี่ จะช่วยให้เรามีสติและขับขี่โดยไม่ประมาทได้ครับ
www.d-riderclub.co.cc
www.superfour-club.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)